1. ต้นทุนสินค้าต่ำ กำไรสูง
ราคาสินค้าจีนถูกกว่า เพราะจีนเป็นแหล่งผลิตที่มีต้นทุนแรงงานต่ำ และสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมาก
สามารถ สั่งซื้อในราคาส่ง และขายปลีกในราคาที่สูงขึ้นได้
2. ความต้องการสินค้าจีนสูง
สินค้าจีนมี ความหลากหลายและราคาจับต้องได้ ทำให้มีตลาดรองรับอยู่เสมอ
สินค้าหลายประเภท เช่น สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์เสริมมือถือ เครื่องใช้ในบ้าน เป็นที่นิยมในไทย
3. วิธีการนำเข้าหลายช่องทาง ลดต้นทุนการขนส่ง
ปัจจุบันมี บริษัทชิปปิ้งและขนส่ง ที่ช่วยลดต้นทุนและจัดการเรื่องภาษีให้สะดวกขึ้น
หากนำเข้าสินค้าได้ในราคาถูก จะช่วยให้มีกำไรเพิ่มขึ้น
4. สามารถขายได้หลายแพลตฟอร์ม
ขายผ่าน Shopee, Lazada, TikTok Shop, Facebook, Line OA ได้ง่ายขึ้น
มีตัวเลือกทั้งขายปลีกและขายส่ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
5. บริหารจัดการดี ลดความเสี่ยงได้
หากเลือก โรงงานที่เชื่อถือได้ และมีการตรวจสอบคุณภาพ จะช่วยลดต้นทุนสินค้าที่อาจเสียหาย
วางแผน สต๊อกสินค้าให้ดี เพื่อไม่ให้ขาดทุนจากสินค้าค้างสต๊อก
ข้อควรระวัง
ต้องคำนวณ ค่าขนส่ง ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้รอบคอบ
ควรศึกษาข้อกำหนด กฎหมายการนำเข้า เพื่อป้องกันปัญหาด้านภาษี
5 แพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการนำเข้าสินค้าจากจีน
หากคุณกำลังมองหาแหล่งนำเข้าสินค้าจากจีน ที่เชื่อถือได้และมีราคาถูก การใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็ว นี่คือ 5 แพลตฟอร์มยอดนิยมที่คนไทยนิยมใช้ในการสั่งซื้อสินค้าจากจีน
1. Alibaba (www.alibaba.com)
แพลตฟอร์ม B2B ขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการสั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก เหมาะสำหรับผู้ค้าส่งที่ต้องการนำเข้าสินค้าราคาต่ำจากโรงงานโดยตรง
- จุดเด่น:
- มีซัพพลายเออร์จำนวนมากจากจีนและทั่วโลก
- สามารถต่อรองราคากับผู้ผลิตได้
- มีระบบการันตีสินค้าผ่าน "Trade Assurance"
- เหมาะสำหรับ: ร้านค้าขายส่งและนักธุรกิจที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าในปริมาณมาก
2. 1688 (www.1688.com)
แพลตฟอร์มในเครือ Alibaba แต่เน้นตลาดภายในประเทศจีน เหมาะสำหรับการสั่งซื้อสินค้าราคาถูกโดยตรงจากโรงงาน
- จุดเด่น:
- ราคาสินค้าถูกกว่า Alibaba เพราะเป็นราคาสำหรับตลาดจีน
- มีสินค้าหลากหลายให้เลือกมากมาย
- ข้อควรระวัง:
- เว็บไซต์เป็นภาษาจีน อาจต้องใช้บริการตัวกลางหรือแอปแปลภาษา
- ซัพพลายเออร์บางรายขายเฉพาะในจีน อาจต้องใช้บริษัทชิปปิ้งช่วยนำเข้า
- เหมาะสำหรับ: ผู้ค้าปลีกและขายออนไลน์ที่ต้องการสินค้าราคาประหยัด
3. Taobao (www.taobao.com)
แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน เหมาะสำหรับการซื้อสินค้าจำนวนน้อยถึงปานกลาง ราคาถูกและมีสินค้าหลากหลาย
- จุดเด่น:
- มีสินค้าให้เลือกมากมายตั้งแต่แฟชั่น อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงของใช้ในบ้าน
- เหมาะสำหรับการสั่งซื้อสินค้าตัวอย่างก่อนนำเข้าล็อตใหญ่
- ราคาถูกกว่าซื้อผ่านตัวแทน
- ข้อควรระวัง:
- เว็บไซต์เป็นภาษาจีน อาจต้องใช้บริการตัวกลางช่วยสั่งซื้อ
- ไม่มีการันตีคุณภาพสินค้าตามมาตรฐานสากล
- เหมาะสำหรับ: พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการทดลองสินค้าก่อนสั่งในปริมาณมาก
4. JD.com (www.jd.com)
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพสูงและการจัดส่งที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับสินค้าที่มีคุณภาพระดับพรีเมียม
- จุดเด่น:
- สินค้ามีมาตรฐานสูงกว่าบางแพลตฟอร์มอื่น ๆ
- การจัดส่งรวดเร็วและมีบริการโลจิสติกส์ของตัวเอง
- เหมาะสำหรับการสั่งซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และแบรนด์จีนแท้
- ข้อควรระวัง:
- ราคาสูงกว่า 1688 และ Taobao
- สินค้าบางประเภทอาจไม่มีราคาส่ง
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการสินค้าคุณภาพสูงและจัดส่งที่รวดเร็ว
5. Pinduoduo (www.pinduoduo.com)
แพลตฟอร์มช้อปปิ้งที่มีโมเดล “Group Buying” ให้ผู้ซื้อรวมกลุ่มกันเพื่อได้ราคาสินค้าถูกลง เหมาะสำหรับนำเข้าสินค้าจากจีน การซื้อสินค้าราคาประหยัด
- จุดเด่น:
- มีดีลสินค้าราคาถูกเมื่อซื้อรวมกันเป็นกลุ่ม
- เหมาะสำหรับสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคและของใช้ในชีวิตประจำวัน
- ข้อควรระวัง:
- คุณภาพสินค้าบางอย่างอาจไม่สูงเท่ากับ JD.com
- ระบบซื้อเป็นกลุ่มอาจไม่เหมาะกับผู้ซื้อที่ต้องการสั่งเพียงชิ้นเดียว
- เหมาะสำหรับ: พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการต้นทุนต่ำและมีลูกค้ากลุ่มใหญ่